เดินเครื่อง ‘สมัชาสุขภาพฯ ครั้งที่ 18 ปั้น 2 วาระสุขภาวะ ‘เศรษฐกิจสูงวัย-เปลี่ยนผ่านพลังงาน’


VIEW: 179   SHARE: 0    
เผยแพร่โดย:   by  Admin

1

 

สช. จัดประชุมคณะอนุกรรมการกำกับฯ นัดแรกปี 2568 เดินหน้าหารือ-วางประเด็นเข้าสู่กระบวนการ “สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 18” เผยความคืบหน้า 2 วาระเบื้องต้น “การเปลี่ยนผ่านพลังงาน-เศรษฐกิจผู้สูงวัย” เตรียมตั้งคณะทำงานพัฒนาประเด็น มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมในระดับพื้นที่เข้มข้น สอดรับทิศทางการปรับโครงสร้างองค์กร สช. ด้านเลขาธิการฯ ย้ำต้องผลักดันนโยบายไปสู่การเกิดมรรคผลจริง

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2568 สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) จัดการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับ สนับสนุน และเชื่อมโยงกระบวนการสมัชชาสุขภาพ ครั้งที่ 1/2568 เพื่อพิจารณาแนวทางการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 18 พ.ศ. 2568 ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงเดือน พ.ย. 2568 โดยมีคณะผู้บริการ สช. พร้อมด้วยบุคลากร คณะกรรมการและคณะทำงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมทั้งทาง on-site และผ่านระบบ online

 

2

 

สพญ.ดร.อังคณา เลขะกุล ประธานคณะอนุกรรมการกำกับ สนับสนุน และเชื่อมโยงกระบวนการสมัชชาสุขภาพ เปิดเผยว่า ขณะนี้ คณะอนุกรรมการกำกับฯ ได้ดำเนินการค้นหาประเด็นที่จะเข้าสู่กระบวนการสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 18 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมี 2 ประเด็นที่อยู่ระหว่างการพัฒนา คือ 1. การเข้าถึงและการเปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างมีส่วนร่วมและสร้างสรรค์ 2. การสร้างโอกาสและมูลค่าร่วมในเศรษฐกิจผู้สูงวัย (Silver Economy)

ทั้งนี้ ความคืบหน้าของทั้ง 2 ประเด็นดังกล่าว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการกำหนดประเด็นและจัดทำวาระนโยบาย ด้วยการแต่งตั้งและประชุมคณะทำงานพัฒนาประเด็น ผ่านการจัดเวทีถกแถลงของแต่ละประเด็น และจัดเวทีเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในนโยบายสาธารณะ อย่างไรก็ตามแม้ว่าการค้นหาประเด็นจะเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่หากมีบริบททางสังคมที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ประเด็นทั้ง 2 เรื่องนี้ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันขณะ

สพญ.ดร.อังคณา กล่าวว่า การจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติในปีนี้ จะสอดคล้องกับการปรับโครงสร้างองค์กรของ สช. ซึ่งมีการกำหนดและแต่งตั้ง สำนักนโยบายสาธารณะประจำภูมิภาค เพื่อยกระดับการสร้างการมีส่วนร่วมในระดับพื้นที่มากขึ้น และกระบวนการที่คณะอนุกรรมการกำกับฯ จะทำต่อไปในอนาคต คือการปรับกระบวนการสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ให้มีส่วนร่วมกับพื้นที่อย่างเข้มข้นมากขึ้นด้วยเช่นกัน

“ไม่ใช่เพียงแค่การโฟกัสที่กระบวนการสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งจัดขึ้นปลายปีอย่างเดียว แต่ระหว่างทางตลอดทั้งปี จะเพิ่มการมีส่วนร่วมให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่การเลือกประเด็นที่นำมาคุยกัน ไปจนถึงการร่างเอกสารประชามติสมัชชาสุขภาพฯ ผ่านการจัดเวทีสาธารณะ กระบวนการถกแถลง เพราะประเด็นทั้ง 2 ที่ได้หารือ และเตรียมไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วคือเรื่องเศรษฐกิจผู้สูงวัย และการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ซึ่งเป็นประเด็นที่ท้าทายและส่งผลกระทบต่อพวกเราทุกคน เราจึงต้องการให้มาร่วมกันออกแบบนโยบายสาธารณะเพื่อทุกคน” ประธานคณะอนุกรรมการกำกับฯ กล่าว

 

3

 

ดร.สัมพันธ์ ศิลปนาฎ ประธานคณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คจ.สช.) ครั้งที่ 17 -18 กล่าวว่า การประชุมคณะอนุกรรมการกำกับฯ ในวันนี้ เป็นเวทีแลกเปลี่ยนที่รวมพลังการผสมผสานของคนหลายรุ่น ให้เข้ามาร่วมกันขับเคลื่อนการทำงานและเปิดกว้างให้กับพื้นที่ ในการร่วมกันเสนอนโยบายสาธารณะ เพื่อผลักดันประเด็นทั้ง 2 เรื่องที่เป็นความท้าทายระดับโลก และมีความเร่งด่วนที่จะต้องเข้ามาช่วยกันจัดการ ไปสู่มติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งจะส่งผลต่อประชาชนและสังคมในวงกว้าง

“คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าระหว่างทางตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงเดือน พ.ย. ที่จะมีการจัดงานสมัชชาสุขภาพฯ จะไม่ได้จำกัดอยู่แค่ 2 ประเด็นนี้ แต่เรายังอยากเห็นประเด็นอื่นๆ ที่สุกงอม มีความสำคัญ จำเป็น ผ่านการใช้เวทีสาธารณะจากการมีส่วนร่วมของพื้นที่ ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งอาจจะไม่ใช่แค่มติสมัชชาฯ แต่อย่างน้อยเราจะได้องค์ความรู้และความเข้าใจในเรื่องนั้นๆ มากขึ้น รวมถึงสิ่งสำคัญคือเราจะสื่ออย่างไรให้เกิดผลกระทบกับสังคมไทย ไม่ใช่สื่อสารเพื่อแค่ให้รับทราบ ซึ่งนี่คือความท้าทายในการวางยุทธศาสตร์การดำเนินงานในช่วงเวลา 10 เดือนที่เหลือ” ประธาน คจ.สช. กล่าว

 

3

 

ขณะที่ นายสมเกียรติ พิทักษ์กมลพร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และผู้อำนวยการสำนักนโยบายสาธารณะภาคใต้ กล่าวว่า ทาง คจ.สช. ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำกับฯ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา โดยมีคณะที่ปรึกษาและอนุกรรมการ ทั้งหมด 28 คน เพื่อทำหน้าที่กำกับทิศทาง ให้คำแนะนำด้านวิชาการ ตลอดจนกระบวนการพัฒนาเอกสารวิชาการ และการดำเนินการจัดกระบวนการสมัชชาสุขภาพแห่งชาติตลอดทั้งกระบวนการ รวมทั้งสนับสนุนการขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 18 ร่วมกับคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คมส.)

สำหรับกรอบแนวทางในการขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 18 จะเน้นการให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตลอดทั้งกระบวนการ บูรณาการในการพัฒนานโยบาย (ขาขึ้น) พร้อมขับเคลื่อนการดำเนินงานเชิงระบบ (ขาเคลื่อน) โดยเน้นการเชื่อมโยงการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานภาคีระดับพื้นที่ และสมัชชาสุขภาพจังหวัด พร้อมทั้งส่งเสริมการสร้างปัญญาผ่านกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อให้นโยบายที่พัฒนาขึ้นมีองค์ความรู้ที่ความหลากหลาย และตอบสนองต่อบริบทของพื้นที่ได้อย่างแท้จริง

นายสมเกียรติ กล่าวว่า ส่วนกระบวนการในการขับเคลื่อนจะประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ 1. การค้นหาประเด็น  2. การกำหนดประเด็นเพื่อจัดทำวาระนโยบาย และ 3. การประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือน พ.ย. 2568 นี้

 

4

 

ด้าน นพ.สุเทพ เพชรมาก เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ในกระบวนการจัดทำสมัชชาสุขภาพฯ จะต้องตั้งต้นการทำงานด้วยการมองภาพหรือเป้าหมายที่อยากจะเห็นร่วมกัน นั่นคือนโยบายสาธารณะที่ร่วมกันจัดทำในกระบวนการขาขึ้นนั้น ได้รับการขับเคลื่อนไปเป็นมรรคผลในทางปฏิบัติได้มากน้อยเพียงใด ผ่านกลไก คมส. ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน โดยในปีนี้ได้มีการแต่งตั้งให้ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ เป็นประธานคณะอนุกรรมการใน คมส. ที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์และสาธารณสุข  และ ผศ.พงษ์เทพ สุธีรวุฒิ เป็นประธานคณะอนุกรรมการใน คมส. ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพสังคมและสุขภาวะ

“คณะอนุกรรมการกำกับฯ เราก็ขับเคลื่อนไปตามกระบวนการขาขึ้น เพื่อผลักดันให้เกิดนโยบายสาธารณะออกมาเป็นมติ แต่ก็ต้องคำนึงถึงบริบทของขาเคลื่อนไปพร้อมๆ กัน ว่าใครจะเป็นคนทำ เราก็จะได้ชวนคนเหล่านั้นมาทำขาขึ้นด้วยกันตั้งแต่ต้น ผ่านกลไก คมส. เพราะเราไม่ได้หวังแค่ว่ามติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป เพียงแค่นั้นมันก็ไม่สำเร็จ แต่ถ้าเราชวนคนที่เกี่ยวข้องทั้งหลายมาร่วมกันตั้งแต่แรก แล้วมีมติ ครม. ออกมาให้เกิดความเชื่อมโยง เพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบได้นำไปทำแผนหรือตั้งงบประมาณให้เขาได้ทำงานได้ดีขึ้น เราก็หวังว่าจะสามารถทำให้เกิดความ win-win กันได้ทุกฝ่าย” นพ.สุเทพ กล่าว

 

789

 

รูปภาพ

NHCO Q&A