โครงสร้างคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ
มาตรา 13 (1) นายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธานกรรมการ
มาตรา 13 (2) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นรองประธานกรรมการ
มาตรา 13 (3) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่นายกรัฐมนตรีกำหนด จำนวนไม่ เกิน 5 คนเป็นกรรมการ
ตามมาตรา 13 (6) ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งเลือกกันเอง จำนวน 4 คน เป็นกรรมการ
ตามมาตรา 13 (7) ผู้แทนองค์กรวิชาชีพด้านสาธารณสุขที่มีกฎหมายจัดตั้ง องค์กรละ 1 คน เป็นกรรมการ
ตามมาตรา 13 (8) ผู้แทนคณะกรรมการวิชาชีพที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะ ซึ่งเลือกกันเองจำนวน 1 คน เป็นกรรมการ
ตามมาตรา 13 (9) ผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่าง ๆ ซึ่งต้องไม่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุข โดยเลือกกันเอง จำนวน 6 คน เป็นกรรมการ
ตามมาตรา 13 (10) ผู้แทนองค์กรภาคเอกชนที่ไม่แสวงหากำไร ไม่ว่าจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลหรือไม่ ซึ่งเลือกกันเอง จำนวน 13 คน เป็นกรรมการ
เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ที่ได้รับการคัดเลือกตามมาตรา 31 เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้เลขาธิการแต่งตั้งพนักงานของสำนักงานไม่เกิน 2 คนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (National Health Commission: NHC) หรือ คสช. เป็นกลไกการดำเนินงานระดับชาติภายใต้ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 มีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี
มีองค์ประกอบตามมาตรา 13 ที่มาจาก 3 ภาคส่วน ได้แก่ ภาคการเมือง/ราชการ ภาควิชาการ/วิชาชีพ และภาคประชาชน/สังคม โดยมีที่มาทั้งจากการดำรงตำแหน่งและการสรรหาด้วยวิธีการเลือกกันเอง ดังนี้
ประธานกรรมการ ได้แก่ นายกรัฐมนตรี หรือรองนายรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
รองประธานกรรมการ ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
กรรมการ ประกอบด้วย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่นายกรัฐมนตรีกำหนด จำนวนไม่เกิน 5 คน
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
- ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
- ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ขอยุติชั่วคราว ด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 บัญญัติว่า กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต้องไม่เป็นกรรมการ
ของหน่วยงานของรัฐ) - ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เลือกกันเอง จำนวน 4 คน
- ผู้แทนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายกเมืองพัทยาและหัวหน้าผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นเป็นการเฉพาะทำนองเดียวกัน
- ผู้แทนนายกเทศมนตรี
- ผู้แทนนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
- ผู้แทนนายกองค์การบริหารส่วนตำบล
- ผู้แทนองค์กรวิชาชีพด้านสาธารณสุขที่มีกฎหมายจัดตั้งองค์กรละ 1 คน
- ผู้แทนแพทยสภา
- ผู้แทนสภาการพยาบาล
- ผู้แทนทันตแพทยสภา
- ผู้แทนสภาเภสัชกรรม
- ผู้แทนสภาเทคนิคการแพทย์
- ผู้แทนสภากายภาพบำบัด
- ผู้แทนสภาการแพทย์แผนไทย
- ผู้แทนสภาการสาธารณสุขชุมชน
- ผู้แทนคณะกรรมการวิชาชีพด้านสาธารณสุขที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะ ซึ่งเลือกกันเองจำนวน 1 คน
- ผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ ซึ่งต้องไม่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุขโดยเลือกกันเอง จำนวน 6 คน
- ผู้แทนองค์กรภาคเอกชนที่ไม่แสวงหากำไร ไม่ว่าจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลหรือไม่ ซึ่งเลือกกันเอง จำนวน 13 คน
- เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ที่ได้รับการคัดเลือกตามมาตรา 31 เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้เลขาธิการแต่งตั้งพนักงานของสำนักงานไม่เกิน 2 คนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ
คสช. มีบทบาทหน้าที่ในการให้ข้อเสนอแนะแก่รัฐบาล และหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการกำหนดยุทธศาสตร์ นโยบาย และมาตรการที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาวะ ให้ดำเนินการ
พัฒนาหรือกำหนดยุทธศาสตร์ นโยบาย และมาตรการต่าง ๆ โดยคำนึงถึงสุขภาวะของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ นอกจากนี้ คสช. ยังทำหน้าที่เชื่อมโยงให้คน กลุ่มคน และหน่วยงาน
จากทุกฝ่ายในสังคมเข้ามาร่วมทำงานเชิงนโยบายและยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ คสช. จึงเป็นเสมือนกลไกที่ช่วยเสริมให้การทำงานของรัฐบาล หน่วยงาน องค์กรและภาคีต่างๆ เดินไปข้างหน้าโดยบูรณาการ
การพัฒนาทุกมิติของสุขภาวะไปพร้อมๆ กัน
หน้าที่และอำนาจ
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.)
ตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550
1. จัดทำธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ
2. เสนอแนะหรือให้คำปรึกษาต่อคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านสุขภาพ และติดตามผลการดำเนินงานตามที่ได้เสนอแนะหรือให้คำปรึกษาดังกล่าวพร้อมทั้งเปิดเผยให้สาธารณชนทราบด้วย
3. จัดให้มีสมัชชาสุขภาพแห่งชาติและสนับสนุนในการจัดให้มีสมัชชาสุขภาพเฉพาะพื้นที่หรือสมัชาสุขภาพเฉพาะประเด็น
4. จัดให้มีหรือส่งเสริม สนับสนุนให้มีกระบวนการในการพัฒนานโยบาย และยุทธศาสตร์ด้านสุุขภาพเพื่อให้เกิดการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย
5. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการติดตามและประเมินผลเกี่ยวกับระบบสุขภาพแห่งชาติและผลกระทบด้านสุขภาพที่เกิดจากนโยบายสาธารณะ ทั้งระดับนโยบายและระดับปฏิบัติการ
6. เสนอแนะหรือให้คำปรึกษาในการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัตินี้หรือการออกกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัตินี้
7. กำหนดนโยบาย และกำกับดู แลการดำเนินการของคณะกรรมการบริหารและสำนักงาน
8. แต่งตั้งคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่คสช. มอบหมาย
9. วางระเบียบว่าด้วยเบี้ยประชุมที่มิใช่เบี้ยประชุมของ คสช. และระเบียบว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่นในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้
10. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎหมายอื่น หรือตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย
ข้อเสนอแนะหรือคำปรึกษาเกี่ยวกับนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านสุขภาพตาม (2) ต้องสอดคล้องกับธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ และคำนึงถึงข้อเสนอแนะของสมัชชาสุขภาพด้วย