จากสำนักงานปฏิรูประบบสุขภาพ (สปรส.) ซึ่งจัดตั้งภายใต้สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) เมื่อ พ.ศ. 2543 ได้พัฒนาเป็นสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.)
ตาม พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ให้ไว้ ณ วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2550
หมายเหตุ ท้าย พ.ร.บ. บอกเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้คือ โดยที่สุขภาพ หมายถึง ภาวะของมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งทางกาย ทางจิต ทางปัญญา และทางสังคม เชื่อมโยงกันเป็นองค์รวมอย่างสมดุล
การวางระบบเพื่อดูแลแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพของประชาชน จึงไม่อาจมุ่งเน้นที่การจัดบริการเพื่อการรักษาพยาบาลเพียงด้านเดียว เพราะจะทําให้รัฐและประชาชนต้องเสียค่าใช้จ่ายมากและจะเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ
ในขณะเดียวกันโรคและปัจจัยที่คุกคามสุขภาพมีการเปลี่ยนแปลงและมีความยุ่งยากสลับซับซ้อนมากขึ้น จำเป็นต้องดำเนินการให้ประชาชนมีความรู้เท่าทัน มีส่วนร่วม และมีระบบเสริมสร้างสุขภาพและระวังป้องกันอย่างสมบูรณ์
สมควรมีกฎหมายว่าด้วยสุขภาพแห่งชาติ เพื่อวางกรอบและแนวทางในการกําหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์และการดำเนินงานด้านสุขภาพของประเทศ รวมทั้งมีองค์กรและกลไกเพื่อให้เกิดการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย อันจะนําไปสู่เป้าหมายในการสร้างเสริมสุขภาพ รวมทั้งสามารถ ดูแลแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง และเป็นการสอดคล้องกับ บทบัญญัติแห่งมาตรา 56 มาตรา 76
และมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
ผ่านไป 18 ปี พ.ร.บ. ฉบับนี้ยังคงทันสมัย ใช้ได้ดี
ในยุค AI มีอะไรลองถาม ChatGPT ว่าทำไมต้องมี สช. ตอบไว้ดังนี้
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 เพื่อทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนนโยบายและระบบสุขภาพของประเทศให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน
โดยมีบทบาทสำคัญ ดังนี้
1. การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน (Participatory Governance)
•เปิดโอกาสให้ประชาชน ภาคประชาสังคม หน่วยงานรัฐ และ ภาคเอกชน ได้ร่วมกำหนดนโยบายสุขภาพผ่าน สมัชชาสุขภาพ และกลไกอื่นๆ
•สร้างการมีส่วนร่วม ในการกำหนดนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพที่ครอบคลุมทุกมิติของชีวิต เช่น การลดการใช้สารเคมีในเกษตรกรรมและการพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน
2. การเชื่อมโยงนโยบายสุขภาพในทุกนโยบาย (Health in All Policies - HiAP)
•สนับสนุนให้การกำหนดนโยบายสาธารณะในทุกด้านคำนึงถึงผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม การขนส่ง หรือการศึกษา
•ส่งเสริมการใช้เครื่องมือการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA) เพื่อช่วยให้หน่วยงานต่าง ๆ สามารถตัดสินใจเชิงนโยบายอย่างรอบด้าน
3. การจัดกระบวนการสมัชชาสุขภาพ (National Health Assembly - NHA)
•จัดให้มี “สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ” ซึ่งเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ
•เป็นพื้นที่สำหรับประชาชนและหน่วยงานทุกระดับในการเสนอปัญหา แนวทางแก้ไข และพัฒนานโยบายร่วมกัน
4. การพัฒนาระบบสุขภาพเพื่อความเป็นธรรมและเท่าเทียม
•สนับสนุนการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ เช่น การเข้าถึงบริการสาธารณสุขของประชาชนในพื้นที่ห่างไกลและกลุ่มเปราะบาง
•ส่งเสริมการใช้ข้อมูลเพื่อสนับสนุนการพัฒนานโยบายที่มีความเป็นธรรมทางสุขภาพ (Health Equity)
5. การสนับสนุนและเชื่อมโยงเครือข่ายสุขภาพระดับชาติและท้องถิ่น
•เชื่อมโยงการทำงานของเครือข่ายสุขภาพระดับจังหวัดผ่าน “สมัชชาสุขภาพจังหวัด”
•สนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานในระดับพื้นที่ เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเครือข่ายชุมชน ในการจัดทำแผนสุขภาพชุมชน
บทบาทสำคัญในช่วงสถานการณ์วิกฤต ในช่วงสถานการณ์เช่น การระบาดของโควิด-19 สช. มีบทบาทในการรวบรวมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในการเสนอแนะแนวทางการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน ผ่านการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายที่เกิดจากฉันทมติของสมัชชาสุขภาพ
สรุป สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) มีบทบาทในการสร้างกระบวนการนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพที่มาจากประชาชน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในทุกระดับ และผลักดันให้เกิดความเป็นธรรมด้านสุขภาพในทุกมิติของนโยบายสร้างระบบสุขภาพที่ยั่งยืนและครอบคลุมความต้องการของสังคมในระยะยาว
อันนี้ AI ChatGPT เป็นคนตอบ ก็ตอบดีใช้ได้ แต่ยังไม่สมบูรณ์ครบถ้วน จะให้ดีกว่านี้ท่านผู้อ่านลองถามซ้ำดูอีกที และขอทุกท่านโปรดพลิกไปอ่าน “สานพลัง” ฉบับนี้ โดยพลัน