สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) แม้ไม่ใช่หน่วยงานใหญ่โต แต่มีพลังอำนาจในการเชื่อมประสานและสานพลังทุกภาคส่วน ด้วยบทบาทที่ไม่ซ้ำใครในการเป็น "สะพาน" ที่เชื่อมต่อระหว่างภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม
สช. มุ่งมั่นที่จะร่วมพลิกโฉมระบบสุขภาพท้องถิ่น ด้วยการ
● สร้างฉันทมติระดับนโยบาย - จุดประกายการสนทนาระดับชาติเพื่อผลักดันให้การพัฒนาระบบสุขภาพท้องถิ่นเป็นวาระแห่งชาติ ผ่านกระบวนการสมัชชาสุขภาพและเวทีนโยบายสาธารณะ
● ประสานเครือข่ายภาคียุทธศาสตร์ - เชื่อมโยงหน่วยงานสำคัญทั้ง บพท. สวรส. สปสช. สสส. สพฉ. สรพ. สถ. และภาคีเครือข่ายอื่นๆ ให้บูรณาการทรัพยากร องค์ความรู้ และกลไกสนับสนุน เพื่อหนุนเสริมการทำงานของ อปท.
● สร้างเสริมศักยภาพกลไกอภิบาลในท้องถิ่น - สนับสนุนให้กลไกอภิบาลสุขภาพในระดับพื้นที่ โดยเฉพาะคณะกรรมการสุขภาพระดับพื้นที่ (กสพ.) และกองสาธารณสุขของ อปท. มีความเข้มแข็ง เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วมในระดับพื้นที่
● ส่งเสริมนวัตกรรมบริการสุขภาพท้องถิ่น - สนับสนุนการพัฒนาระบบและรูปแบบบริการสุขภาพที่ตอบโจทย์พื้นที่ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิด้านสุขภาพของประชาชน
คำถามที่ท้าทายคือ การทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อระหว่างหน่วยงานที่มีบริบท วัฒนธรรม และเป้าหมายที่แตกต่างกันจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ ?
แผน 3 ปี: บทพิสูจน์พลังแห่งการเปลี่ยนแปลง
แผนพัฒนาระบบสุขภาพท้องถิ่นของ สช. ในระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2568-2570) เกิดจากการระดมความคิดเห็นของหลากหลายภาคส่วน ที่ไม่ใช่เพียงเอกสารธรรมดา แต่เป็นพิมพ์เขียวแห่งการเปลี่ยนแปลงที่จะปลดล็อกศักยภาพของ อปท. ในการดูแลสุขภาพของประชาชน
ประกอบด้วย 4 แผนงานหลักที่เชื่อมโยงและเสริมพลังซึ่งกันและกัน โดยกำหนดว่าภายในปี 2570 อปท. สามารถบริหารจัดการด้านสุขภาพตามหน้าที่ได้อย่างมีคุณภาพ ทั่วถึง เป็นธรรม ตอบสนองต่อปัญหาและความต้องการของประชาชน ประชาชนในพื้นที่มีสุขภาพดีทั้ง 4 มิติ คือ กาย ใจ สังคม และปัญญา อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี มีส่วนร่วมในระบบสุขภาพ โดยดำเนินการผ่าน
1. สร้างฉันทมติระดับนโยบาย ยกระดับการพัฒนาระบบสุขภาพท้องถิ่นให้เป็น "ทศวรรษแห่งการพัฒนาระบบสุขภาพท้องถิ่น" เพื่อสร้างความมั่นใจว่านโยบายนี้จะได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง แม้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
2. เสริมสร้างกลไกอภิบาลในท้องถิ่น พัฒนาศักยภาพของ กสพ. และหน่วยงานด้านสาธารณสุขของ อปท. ให้เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง สามารถวางแผน บริหารจัดการ และประสานความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ยกระดับคุณภาพบริการและการคุ้มครองสิทธิ พัฒนาระบบและกลไกที่ช่วยให้ อปท. สามารถจัดบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ ครอบคลุมทั้งการส่งเสริม ป้องกัน รักษา และฟื้นฟู รวมทั้งการคุ้มครองสิทธิด้านสุขภาพของประชาชน
4. สร้างพื้นที่ต้นแบบและขยายผล - พัฒนา "เมืองสุขภาวะต้นแบบ" ที่แสดงให้เห็นถึงพลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดูแลสุขภาพของประชาชน และขยายบทเรียนความสำเร็จไปสู่พื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ
แผนนี้จะเป็นจริงได้ต้องอาศัยการลงมือทำร่วมกันอย่างจริงจัง ไม่ใช่เพียงแค่การประชุม หรือการลงนามในบันทึกข้อตกลง แต่ต้องเป็นการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ และร่วมเรียนรู้ไปด้วยกัน
คำถามที่ท้าทายคือ เราจะวัดความสำเร็จของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ได้อย่างไร ?
พลังแห่งการสานพลัง: จากจินตนาการสู่ความเป็นจริง
ความสำเร็จของการพัฒนาระบบสุขภาพท้องถิ่นไม่อาจเกิดจากการทำงานแบบ "ต่างคนต่างทำ" หรือ "สั่งการจากบน" แต่ต้องอาศัยพลังแห่งการทำงานร่วมกันแบบ "สานพลัง" ที่ทุกฝ่ายเท่าเทียม เคารพซึ่งกันและกัน และมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น อบจ. เทศบาล หรือ อบต. ต้องเปิดใจ กล้าเรียนรู้ กล้าริเริ่ม และพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน
สธ. และหน่วยงานส่วนกลาง ต้องปรับบทบาทจาก "ผู้สั่งการ" เป็น "ผู้สนับสนุน" พร้อมถ่ายโอนทั้งภารกิจ ทรัพยากร และอำนาจการตัดสินใจไปสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง
หน่วยงานด้านสุขภาพ ทั้ง สปสช. สสส. สพฉ. สรพ. และอื่นๆ ต้องบูรณาการการทำงานและทรัพยากรเพื่อสนับสนุนท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ ไม่ซ้ำซ้อนหรือแยกส่วน
ภาควิชาการและวิชาชีพ ต้องสนับสนุนองค์ความรู้และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์พื้นที่ รวมทั้งพัฒนาบุคลากรที่มีทั้งความรู้และจิตวิญญาณในการทำงานเพื่อท้องถิ่น
ภาคประชาสังคม ต้องเข้ามามีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้น ทั้งในฐานะผู้ร่วมกำหนดนโยบาย ผู้ร่วมดำเนินการ และผู้ติดตามตรวจสอบ
ประชาชน ต้องตื่นรู้ เท่าทัน และพร้อมเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของตนเอง ครอบครัว และชุมชน
คำถามที่ท้าทายคือ เราจะสร้างเวทีและกระบวนการที่ทำให้ทุกภาคส่วนได้มาพบกัน แลกเปลี่ยน เรียนรู้ และร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร ?
เชิญชวนสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ
3 ปีข้างหน้านี้คือบทพิสูจน์พลานุภาพแห่งการทำงานแบบสานพลัง เป็นโอกาสที่เราจะได้แสดงให้เห็นว่า การทำงานร่วมกันข้ามขอบเขตองค์กร ข้ามกรอบความคิดเดิม และข้ามข้อจำกัดต่างๆ จะสามารถสร้างระบบสุขภาพท้องถิ่นที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ครอบคลุมทุกพื้นที่ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ช่วยลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในระบบสุขภาพ เสริมพลังให้ประชาชนเป็นเจ้าของสุขภาพของตนเอง ตลอดจนสร้างนวัตกรรมและองค์ความรู้ที่ตอบโจทย์บริบทและวัฒนธรรมของพื้นที่ และสามารถปรับตัวรับมือกับวิกฤตสุขภาพได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
วันนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้บริหารหรือบุคลากรของ อปท. หน่วยงานรัฐ องค์กรด้านสุขภาพ สถาบันการศึกษา ภาคประชาสังคม หรือประชาชนทั่วไป คุณล้วนมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของระบบสุขภาพไทย ร่วมเปิดบทพิสูจน์พลานุภาพของการทำงานแบบสานพลัง เพื่อสร้างระบบสุขภาพท้องถิ่นที่เข้มแข็ง เป็นธรรม และยั่งยืน อันจะนำไปสู่สุขภาวะที่ดีของประชาชนไทยทุกคน ทุกพื้นที่ อย่างแท้จริง