รมช.สาธารณสุข “เดชอิศม์” นั่งหัวโต๊ะประชุม คมส. หารือแนวทางกำกับติดตาม-สนับสนุนขับเคลื่อน “มติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ” ย้ำปัญหาสุขภาพ-NCDs แก้ที่ปลายทางอย่างเดียวไม่ได้ ต้องสานพลังหลายกระทรวง
เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2567 สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) จัดการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คมส.) ครั้งที่ 1/2567 โดยมี นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข ได้รับมอบหมายจาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เป็นประธานการประชุม เพื่อหารือถึงการกำหนดยุทธศาสตร์และประสานความร่วมมือกับหน่วยงานและภาคีเครือที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติร่วมกัน
นายเดชอิศม์ เปิดเผยว่า สถานการณ์เรื่องสุขภาพของคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากอดีต โดยหากย้อนกลับไปดูเมื่อ 40-50 ปีที่แล้ว ผู้คนอาศัยอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ดี มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ แต่มาถึงปัจจุบันสภาพแวดล้อมเหล่านี้มีการเปลี่ยนไปมาก ทำให้การดูแลสุขภาพของคนไทยนั้นไม่สามารถมาดูแลกันเฉพาะปลายทาง ที่เป็นภาระของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องเกิดการพูดคุยและร่วมมือกันทั้งระบบที่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก
“ต้นทางของเรื่องสุขภาพนั้นประกอบด้วยหลายกระทรวงมาก เช่น กระทรวงอุตสาหกรรมที่ต้องเข้มงวดกวดขันการปล่อยมลพิษจากโรงงานสู่สิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรฯ ต้องมาทบทวนหาแนวทางเพิ่มพื้นที่ป่าเพื่อนำความอุดมสมบูรณ์กลับคืนมา กระทรวงมหาดไทยโดยเฉพาะท้องถิ่น ต้องดูแลเรื่องคุณภาพประปาหรือสาธารณูปโภคต่างๆ ฯลฯ ซึ่งมลพิษจากหลายแหล่งที่สะสมและเข้าสู่ร่างกายคนทุกวันนี้ จึงทำให้เราเห็นผู้คนป่วยตายจากโรคมะเร็งกันมากขึ้น ยังไม่รวมถึงโรค NCDs ที่มาจากพฤติกรรมอีกมาก” รมช.สธ. กล่าว
นพ.สุเทพ เพชรมาก เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า นับตั้งแต่การเกิดขึ้นของ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 พร้อมกับที่มีสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ในปี 2551 มาจนถึงปัจจุบันนี้ได้มีการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ไปแล้วทั้งหมด 16 ครั้ง มีการพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายสาธารณะที่ส่งผ่านไปถึง คสช. และคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมทั้งสิ้น 96 มติ แบ่งเป็น มติที่บรรลุตามเป้าหมายของมติแล้ว 36 มติ กำลังขับเคลื่อน 39 มติ ต้องมีการทบทวนใหม่ 9 มติ ควรให้ยุติ 3 มติ และยังไม่สามารถขับเคลื่อนได้ 9 มติ
สำหรับมติทั้ง 96 ประเด็น ได้มีการจัดกลุ่มตามเป้าหมายและความสอดคล้องของเนื้อหาสาระ ซึ่งสามารถจำแนกออกมาได้เป็น 13 กลุ่มมติ โดยมากที่สุดคือกลุ่มมติที่เกี่ยวข้องกับ การพัฒนาระบบสุขภาพ จำนวน 15 มติ สุขภาวะชุมชนและสังคม จำนวน 13 มติ และ การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม 10 มติ
“สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ เป็นเวทีใหญ่ของกระบวนการพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ซึ่งหัวใจหลักนอกจากการมีส่วนร่วมพัฒนาข้อเสนอให้เกิดเป็นนโยบายแล้ว สิ่งสำคัญยังเป็นการร่วมกันติดตามผลของการขับเคลื่อนนโยบายเหล่านี้ ว่านำไปสู่ความสำเร็จที่เกิดเป็นรูปธรรมได้มากน้อยเพียงใด พร้อมกับหนุนเสริมและผลักดันกลไกต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดความก้าวหน้า และส่วนนี้จึงเป็นบทบาทหลักที่มี คมส. เข้ามาดำเนินการ” นพ.สุเทพ กล่าว
ทั้งนี้ ในที่ประชุม คมส. ซึ่งมีกรรมการที่ประกอบไปด้วยตัวแทนจากหน่วยงานภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันหารือในเบื้องต้นถึงประเด็นปัญหา อุปสรรค ข้อท้าทายของการขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติในประเด็นต่างๆ พร้อมเสนอให้มีการสรุปบทเรียนเป็นข้อมูลที่สามารถนำมาสื่อสาร เพื่อประโยชน์ในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ รวมถึงช่องทางที่ภาคีสามารถนำเสนอผลการขับเคลื่อนภารกิจงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ให้เป็นปัจจุบัน ซึ่งทั้งหมดยังได้ให้ความยินดีในการที่จะร่วมกันขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติในประเด็นต่างๆ ต่อไป